‘พี่ต้า’ ยันแฮปปี้กับ ‘ชาก้า’ มากหลังห้างยาสนใจ

มิเกล อาร์เตต้า บอกว่า กรานิท ชาก้า กำลังมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดกับ อาร์เซน่อล ก็ว่าได้และแฮปปี้กับนักเตะเป็นอย่างมาก

ท่ามกลางข่าว ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ให้ความสนใจ ชาก้า ผ่านการเป็นข่าวย้ายซบ เลเวอร์คูเซ่น ในช่วงซัมเมอร์แต่ อาร์เตต้า ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องการปล่อยให้นักเตะย้ายออกจากทีมเลย

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษวันนี้

ตลอดเส้นทางการค้าแข้งในรั้ว เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของดาวเตะวัย 30 ปีนั้นต้องพบกับช่วงเวลาทั้งขึ้นและลง แต่ซีซั่นนี้เขาทำผลงานยอดเยี่ยมช่วยให้ทีมมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

แม้แต่กุนซือชาวสเปนเองก็คิดว่านี่น่าจะเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดที่ ชาก้า มีกับ อาร์เซน่อล และตัวเขาก็แฮปปี้กับนักเตะเป็นอย่างยิ่ง

อาร์เตต้า กล่าวถึงความสนใจที่ เลเวอร์คูเซ่น มีต่อ ชาก้า ว่า “อย่างที่คุณเข้าใจล่ะว่าผมจะไม่ตอบคำถามในบางเรื่อง”

“แต่ผมแฮปปี้กับ กรานิท เป็นอย่างมาก ผมคิดว่าเขามีฤดูกาลที่สุดยอดเลยนะ น่าจะเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดที่เขาเล่นกับสโมสรด้วยซ้ำ และเราแฮปปี้มากที่มีเขา”

อาร์เซน่อล จะพบกับ ไบรจ์ตัน ในวันอาทิตย์จากนั้นจะเหลือเกมเจอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ กับ วูลฟ์ส ให้ลงสนามโดยที่ยังตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่แต้มนึงแต่แข่งมากกว่า 1 นัด

ข่าวแนะนำ : เลสเตอร์ เรียกศรัทธาลุ้นหนีโซนแดง! วาร์ดี้ นำทัพรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ไร้พ่าย 3 นัดติด

เลสเตอร์ เรียกศรัทธาลุ้นหนีโซนแดง! วาร์ดี้ นำทัพรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ไร้พ่าย 3 นัดติด

สถานการณ์ของ “เดอะ ฟ็อกซ์” ย่ำแย่เหลือเกินไม่ชนะมา 10 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ เกมนี้พร้อมเรียกศรัทธาเล่นใน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

จัดแนวรุกอย่าง เจมส์ แมดดิสัน ปั้นทัพโดยมีหอกตัวเก๋าอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ ล่าชัย รับการมาเยือนของ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ไร้พ่าย 3 นัดติด วาง มาเตอุส นูเนส เป็นทีเด็ด ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 22 เมษายนนี้ เวลา 21.00 น.

เลสเตอร์ ของกุนซือ ดีน สมิธ ประเดิมคุมทีมด้วยการออกไปพ่ายให้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 ในเกมล่าสุด ทำให้ 10 นัดหลังสุดไม่ชนะใครเลยรวมทุกรายการ

ข่าวกีฬาต่างประเทศล่าสุด

ความพร้อมเกมนี้ สมิธ จะขาด ริคาร์โด้ เปเรยร่า (เอ็นร้อยหวาย), เจมส์ จัสติน, ไรอัน เบอร์ทรานด์ (เข่าทั้งสองข้าง) และ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (น่อง) ที่เจ็บทั้งหมด

ขณะที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เอ็นร้อยหวาย) และ จอนนี่ อีแวนส์ (ป่วย) ก็น่าจะไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ แต่ต้องรอประเมินอาการอีกทีก่อนแข่งง

การจัดทัพจะมาในระบบ 4-3-3 ให้ ดาเนียล อีเวอร์เซ่น เฝ้าเสา แนวรับมี ทิโมธี กาสตาญ, แฮร์รี่ ซุททาร์, เวาต์ ฟาส และ วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น

แดนกลางให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ยืนตัดเกม โดยมี เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ เดินเกมร่วมกับ ยูริ ตีเลอมันส์ ส่วนสามแนวรุกเป็น เตเต้, เจมี่ วาร์ดี้ และ เจมส์ แมดดิสัน ประสานงานร่วมกัน

ทางฝั่ง จูเลน โลเปเตกี กุนซือ วูล์ฟ์ส นำทีมคว้าชัยมา 2 เกมติดในลีก โดยนัดล่าสุดเปิดบ้านทุบ เบรนท์ฟอร์ด มา 2-0

สภาพทีมเกมนี้ โลเปเตกี จะได้ รูเบน เนเวส และ จอนนี่ กาสโตร พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมหลังติดโทษแบนจากเกมที่แล้ว

แต่กระนั้นก็ต้องรอเช็คอาการบาดเจ็บหัวเข่าของ ดีเอโก้ คอสต้า ที่ได้รับมาจากเกมที่แล้วเช่นเดียวกัน ส่วน ซาซ่า คาไลด์ซิช และ ชิกินโญ่ ยังชวดเหมือนเดิม

การจัดทัพจะมาในระบบ 4-3-3 ให้ โชเซ่ ซา เฝ้าเสา เกมรับใช้ เนลซอน เซเมโด้, เคร็ก ดอว์สัน, แม็กซ์ คิลแมน และ จอนนี่ กาสโตร

แดนกลางมี รูเบน เนเวส ยืนตรงกลาง ขนาบข้างด้วย มาริโอ เลอมิน่า กับ มาเตอุส นูเนส โดยมี อดาม่า ตราโอเร่, มาเตอุส กุนญ่า และ ปาโบล ซาราเบีย ยืนเป็นสามแนวรุก

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เลสเตอร์ (4-3-3) : ดาเนียล อีเวอร์เซ่น – ทิโมธี กาสตาญ, แฮร์รี่ ซุททาร์, เวาต์ ฟาส, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น – เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอมันส์ – เตเต้, เจมี่ วาร์ดี้, เจมส์ แมดดิสัน

วูล์ฟแฮมป์ตัน (4-3-3) : โชเซ่ ซา – เนลซอน เซเมโด้, เคร็ก ดอว์สัน, แม็กซ์ คิลแมน, จอนนี่ กาสโตร – มาริโอ เลอมิน่า, รูเบน เนเวส, มาเตอุส นูเนส – อดาม่า ตราโอเร่, มาเตอุส กุนญ่า, ปาโบล ซาราเบีย

ผู้ตัดสิน : แอนดี้ แมดลี่ย์

ข่าวแนะนำ : จาก กัคโป ถึง เอ็นโซ่!ตัดเกรดแข้งบิ๊กเนมย้ายสังกัดในพรีเมียร์ลีก

จาก กัคโป ถึง เอ็นโซ่!ตัดเกรดแข้งบิ๊กเนมย้ายสังกัดในพรีเมียร์ลีก

บอกเลยว่าหากไม่มีทีมจาก พรีเมียร์ลีก ใช้เงินกันอย่างโครมคราม ตลาดนักเตะเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาก็น่าจะเงียบเชียบ และวังเวงประดุจป่าช้าเวลาตีสาม

จาก-กัคโป-ถึง-เอ็นโซ่
และเป็นเหมือนทุกครั้งที่ลีกเมืองผู้ดีครองแชมป์การจ่ายตลาดยันเตโดยงวดล่าสุดเฉพาะแค่ เชลซี ทีมเดียวก็ทำให้เงินสะพัดแล้วเมื่อ ท็อดด์ โบลีห์ สั่งลุยเสริมทัพแบบไม่เกรงใจใครเป็นการเอาใจกุนซือ แกรห์ม พ็อตเตอร์ อย่างเต็มที่

รวมแล้วมีการเปิดเผยว่า 13 ทีมจาก พรีเมียร์ลีก ใช้เงินกับนักเตะแค่รายเดียวสูงเกินกว่า 10 ล้านยูโร

และสำหรับทีมในห้าลีกใหญ่ของยุโรปก็มีแค่ นีซ , ลียง และ ลอริย็องต์ เท่านั้นที่ควักกระเป๋าซื้อนักเตะรายเดียวสูงเกินกว่า 10 ล้านยูโร

เอาเป็นว่านับเฉพาะการจ่ายตลาดใน พรีเมียร์ลีก เรามาวิเคราะห์กันดีกว่าว่าในบรรดาดาวดังระดับท็อปจะมีดีลไหนที่ปัง หรือว่าพังกันแน่

– โคดี้ กัคโป : พีเอสวี สู่ ลิเวอร์พูล 42 ล้านยูโร

แม้จะได้รับความสนใจจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล จัดการปาดหน้าคว้าตัวสตาร์ทีมชาติ ฮอลแลนด์ มาร่วมก๊วนได้ในช่วงปลายเดือนธ.ค.โดย หงส์แดง จ่ายให้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เป็นจำนวน 42 ล้านยูโรในข้นต้นสู่ขอปีกจรวดมาสวมยูนิฟอร์ม หงส์แดง

ทั้งๆที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับทีมชาติ ฮอลแลนด์ ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รวมทั้งต้นสังกัดในบ้านเกิด แต่ กัคโป ไม่อาจวาดลวดลายกับ ลิเวอร์พูล ได้ดีพอ แต่อาจเป็นเพราะ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำเซอร์ไพรส์เลือกส่งเขาลงเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าทั้งๆที่รู้กันอยู่ว่าเขาถนัดลากเลื้อยทางริมเส้นมากกว่า

หลังจากสตาร์ดังในแผงรุกอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ , ดีโอโก้ โชต้า และ หลุยส์ ดิอาซ พากันล้มเจ็บ คล็อปป์ ก็ขาดแคลนอาวุธในแดนหน้า และเซ็นสัญญาดึง กัคโป มาอุดช่องโหว่เพื่อรอให้สามดาวดังกลับคืนสู่ความฟิต

และจากที่เห็น ส่วนใหญ่กุนซือด๊อยทช์ส่งดาวเตะชาวเมืองกังหันลมลงเล่นเป็นหน้าเป้าซึ่งไม่เหมาะกับสไตล์ของเขา แถมยังทำให้ทีมมีปีกซ้ายมากถึงสี่รายอีกต่างหากซึ่งมองดูแล้วเป็นการเซ็นสัญญาที่ไม่มีความจำเป็นเลยแม้แต่น้อย

เกรด : ดี

– มิไคโล มูดริก : ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค สู่ เชลซี 70 ล้านยูโร

ถือเป็นดีลที่น่าฮือฮาประจำเดือนม.ค.ซึ่งหวิดกลายเป็นมหากาพย์ไปเหมือนกันเนื่องจากตัวนักเตะกระหายย้ายสโมสร แต่ต้นสังกัดไม่คิดปล่อยออกจากทีมแบบง่ายๆกระทั่งส่งผลให้ สิงห์บลูส์ ยอมควักจ่ายในเบื้องต้น 70 ล้านยูโรซึ่งมีสิทธิ์ทะลุถึงหลัก 100 ล้านยูโรได้ตามค่าแอดออน

แม้จะไม่เคยเล่นในต่างแดนมาก่อนนอกเหนือจาก ยูเครน ลีกในบ้านเกิด แถมลงบู๊ให้กับสโมสรไม่ถึง 70 นัดด้วย แต่ เชลซี เลือกลงทุนครั้งสำคัญทั้งๆที่นักเตะมีค่าตัวโดยประเมินแค่ 30 ล้านยูโรเท่านั้น

ฉะนั้นแล้วจึงถือเป็นการเดิมพันที่เสี่ยงมหันต์สำหรับนักเตะที่ยังมีประสบการณ์เพียงน้อยนิด แต่กลับมีค่าตัวมหาศาล

กระนั้นก็ดี หลังจากลงสนามเป็นเกมแรก มูดริค ก็แสดงให้เห็นถึงการเป็นนักเตะที่พิเศษด้วยการสร้างสถิติมีสปีดที่เร็วที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เกมประเดิมสนามดวลกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งเขาเป็นตัวทีเด็ดที่เกือบพลิกเกมได้อยู่รอมร่อ

เกรด : ซี

– แอนโธนี่ กอร์ดอน : เอฟเวอร์ตัน สู่ นิวคาสเซิ่ล 45 ล้านยูโร

เอฟเวอร์ตัน น่าจะเตะก้นตัวเองที่ปฏิเสธขาย กอร์ดอน ให้กับ เชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ก่อนปล่อยเขาย้ายไปค้าแข้งกับ นิวคาสเซิ่ล ในอีกหกเดือนต่อมาด้วยการรับค่าตัวนักเตะที่น้อยลง

ถึงอย่างนั้น ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ยังรับทรัพย์ก้อนใหญ่อยู่ดีเนื่องจากเขามีค่าตัวโดยประเมินแค่ 25.9 ล้านยูโรเท่านั้นด้วยเหตุผลที่ไม่มีความอันตรายในพื้นที่สุดท้ายมากพอ

อย่างไรก็ตาม ความโดดเด่นในการช่วยเกมรับของ กอร์ดอน น่าจะเหมาะกับสไตล์ของ นิวคาสเซิ่ล ในยุคของ เอ็ดดี้ ฮาว ซึ่งนิยมชมชอบตัวรุกที่มีความขยันขันแข็ง

แม้จะมีอายุแค่ 21 ปี แต่ก็มีค่าตัวที่สูงเกินไป อีกทั้งยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นใน พรีเมียร์ลีก เลย

เกรด : ซี

– เบอนัวต์ บาเดียชิล : โมนาโก สู่ เชลซี 38 ล้านยูโร

จากฟอร์มที่ย่ำแย่ของ คาลิดู คูลิบาลี่ ประกอบกับการบาดเจ็บของ เวสลีย์ โฟฟาน่า ทำให้ เชลซี มองหาเซ็นเตอร์ฮาล์ฟรายใหม่เพิ่มอีก

ด้วยค่าตัว 38 ล้านยูโร บาเดียชิล ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม และคุ้มค่าเงินมากกว่าที่ สิงห์บลูส์ คิดจ่ายหนักดึง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล มาจากทีม แอร์เบ ไลป์ซิก

แถมไม่ทันไร ปราการหลังทีมชาติ ฝรั่งเศส ก็ประสานงานกับ ติอาโก้ ซิลวา ได้อย่างลงตัวจนดูราวกับว่าเล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก มานานแล้วจึงถือเป็นการเสริมทัพที่สมบูรณ์แบบของถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีรูปร่างที่สูงใหญ่ หากแต่วิ่งได้อย่างรวดเร็ว

เกรด : บี

– เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : เบนฟิก้า สู่ เชลซี 121 ล้านยูโร

เชลซี ตัดสินใจทุบสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ของ แจ็ค กรีลิช ก่อนตลาดวายด้วยการซื้อ เฟร์นานเดซ มาจาก เบนฟิก้า ในราคา 121 ล้านยูโร

จากเม็ดเงินดังกล่าว ทำให้ดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า ผงาดเป็นพ่อค้าแข้งค่าตัวแพงที่สุดในโลกอันดับห้า และส่งผลให้ สิงห์บลูส์ ทำลายสถิติทุกสโมสรด้วยการใช้เงินเสริมทัพในตลาดเดียวเป็นจำนวน 364 ล้านยูโร

ในแง่ของคุณภาพ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีของเศรษฐีลอนดอนเนื่องจาก เฟร์นานเดซ สร้างชื่อเป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของศึก ฟุตบอลโลก 2022 แถมมีผลงานที่ดีในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

ขณะเดียวกัน เชลซี จำเป็นต้องลดอายุแผงกลางของทีมที่ประกอบไปด้วย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ยังเจ็บไม่หาย รวมทั้ง จอร์จินโญ่ ที่มีอายุเกิน 30 ปีแล้ว และถูกขายให้กับ อาร์เซน่อล ในที่สุด

สำหรับ เฟร์นานเดซ ด้วยวัย 22 ปี เขาจึงมีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่ให้น่าเสียดายอยู่นิดที่ เชลซี ต้องหมดเงินสูงถึง 121 ล้านยูโรไปกับนักเตะที่มีประสบการณ์เล่นในลีกยุโรปแค่หกเดือนเท่านั้น

เกรด : บี

– เลอันโดร ทรอสซาร์ : ไบรท์ตัน สู่ อาร์เซน่อล 24 ล้านยูโร

หลังจากโดน เชลซี ปาดหน้าคว้า มูดริก ไปร่วมก๊วน อาร์เซน่อล ก็หันไปหา ทรอสซาร์ ซึ่งพิสูจน์ตัวเองใน พรีเมียร์ลีก ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ไบรท์ตัน ทดแทนการจากไปของเขาด้วยการใช้งาน คาโอรุ มิโตมะ

เป็นที่ลือกันว่าดาวเตะทีมชาติ เบลเยี่ยม มีปัญหากับกุนซือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ จึงทำให้ นกนางนวล ขายเขาทิ้งโดยไม่ต้องคิดมาก แต่เลือกเก็บ มอยเซส ไกเซโด้ เอาไว้แม้กองกลางทีมชาติ เอกวาดอร์ จะโพสต์ขอย้ายไปค้าแข้งกับ เดอะ กันเนอร์ส อีกรายก็ตาม

ในรายของ มูดริก เขาอาจได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทันทีหากเลือกจรดปากกากับทีม ปืนใหญ่ แต่สำหรับ ทรอสซาร์ หนีไม่พ้นต้องเป็นกำลังสนับสนุนให้กับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ไปพลางๆก่อนเนื่องจากจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ต้องการเพิ่มไพร่พลเพื่อสร้างหลักประกันในการคว้าแชมป์ลีก และน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

เกรด : เอ

อัพเดทข่าวกีฬา เพิ่มเติม : ยังเหลือสัญญา! ‘เซาธ์เกต’ขอพักก่อนตัดสินใจอนาคตกับทีมชาติอังกฤษ

ยังเหลือสัญญา! ‘เซาธ์เกต’ขอพักก่อนตัดสินใจอนาคตกับทีมชาติอังกฤษ

นายใหญ่สิงโตคำรามเผยว่าจากนี้จะขอพักผ่อนก่อนแล้วจะตัดสินใจเรื่องอนาคตในภายหลัง

เซาธ์เกต

แกเร็ธ เซาธ์เกต เฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษ ยังไม่ขอจัดสินใจอนาคตของตัวเองในเร็วๆนี้ หลังพาทีมตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022

นายใหญ่สิงโตคำรามยังเหลือสัญญาจนถึงปี 2024 ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าคงยังไม่ตัดสินใจอนาคตในช่วงนี้ เพราะอยากใช้เวลาพักผ่อนก่อน

“ผมผ่านทัวร์นาเม้นท์ใหญ่มาสองสามรายการแล้ว อารมณ์ของผมตอนนี้มันยากที่คิดอะไรในช่วงสองสามสัปดาห์ต่อจากนี้” เซาธ์เกต กล่าว

“การทำงานทำให้คุณเสียพลังงานมหาศาลและต้องใช้ความคิดมากมายในการตัดสินใจ”

“ผมอยากตัเสินใจให้ถูกต้องไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง เพราะมันอาจถูกต้องที่จะไปต่อ หรือทางถูกต้องที่จะไม่ไปต่อก็ได้ และผมไม่คิดว่าต้องเป็นวันนี้ที่ตัดสินใจ หรืออีกสองสามวันข้างหน้าก็ยังไม่ใช่เวลาเช่นกัน”

อัพเดทข่าวกีฬา เพิ่มเติม : สิงห์อดได้ตัว! ‘ฟรอยด์’ ขออยู่เป็นผอ.กีฬา ‘ซัลซ์บวร์ก’

สิงห์อดได้ตัว! ‘ฟรอยด์’ ขออยู่เป็นผอ.กีฬา ‘ซัลซ์บวร์ก’

คริสตอฟ ฟรอยด์ ยืนยันด้วยตัวเองเลือกอยู่กับ ซัลซ์บวร์ก ต่อไป โดยไม่สนใจไปรับงานผู้อำนวยการกีฬา เชลซี

ดิ แอธเลติก สื่อดังแดนผู้ดี รายงานข่าวว่า คริสตอฟ ฟรอยด์ ตัดสินใจเลือกที่จะนั่งเป็นผู้อำนวยการกีฬา เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในลีกออสเตรียต่อไป โดยไม่สนใจที่จะย้ายไป เชลซี ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่อยากจะคว้าตัวไปทำงานด้วย เพราะเชื่อว่า อยู่กับทีมที่ดีที่สุดแล้วและยังมีงานสำคัญรออยู่

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของร่วม สิงห์บลูส์ ต้องการจะหาผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่แทนที่ มาริน่า กรานอฟสกาย่า ที่ก้าวลงจากตำแหน่ง หลังจากเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยมีรายงานว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับ ฟรอยด์ วัย 45 ปี และเตรียมจะแต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่ แต่ล่าสุด เจ้าตัวปฏิเสธที่จะย้ายไป สิงโตน้ำเงินคราม แล้ว

” อย่างที่ผมได้ยืนยันในการสัมภาษณ์แล้ว สโมสร เชลซี สนใจในตัวผม เมื่อสโมสรใหญ่ๆ ติดต่อมา ไม่ใช่แค่ให้เกียรติผมและผลงานของ ซัลซ์บวร์ก เท่านั้น แต่แน่นอนว่า เป็นสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาโดยส่วนตัวด้วย แต่ผมได้ข้อสรุปแล้วว่า จะขออยู่ในทีมที่ดีที่สุดคือ ซัลซ์บวร์ก และการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับผม เราอยู่ในช่วงเข้มข้น และมีมีงานสำคัญที่ต้องทำในลีกออสเตรีย บอลถ้วย และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องโฟกัสและสมาธิของผมทั้งหมดอยู่ตรงนั้น ” ฟรอยด์ กล่าว

ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ก็เป็นอีกหนึ่งราย ที่ปฏิเสธข้อเสนอจาก เดอะ บลูส์ หลังจากเจ้าตัวอำลาถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ เนื่องจากหมดสัญญาการทำงาน และไม่คิดที่จะอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อ พร้อมกับดัน จูเลี่ยน วอร์ด ขึ้นมาทำหน้าที่แทน ในเวลานี้

ส่วนคนอื่นๆ ที่ตกเป็นข่าว ได้แก่ อันเดรีย แบร์ต้า ผู้อำนวยการกีฬาของ แอตเลติโก มาดริด, พอล มิตเชลล์ ของ โมนาโก, แดน แอชเวิร์ธ ของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ หลุยส์ คัมโปส ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่ก็ยังไม่มีใครตอบตกลง ทำให้ โบห์ลี่ ยังคงต้องรับงานนี้เป็นการชั่วคราวไปก่อน